วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

การ์ดความรัก





























4 เคล็ดลับ เติมความอบอุ่น ให้ห้องนอน


4 เคล็ดลับ เติมความอบอุ่น ให้ห้องนอน

ดีไซเนอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับเห็นพ้องต้องกันว่า ห้องนอนควรเป็นเสมือนที่ลี้ภัยอันสงบสุข ซึ่งเหมาะแก่การนอนและผ่อนคลาย และนี่คือห้าเคล็ดลับในการทำให้ห้องนอนเป็นสวนสวรรค์อันสงบสุข

1. กำจัดความรกรุงรัง เมื่อคุณเดินเข้าไปในห้องนอน ทุกอย่างดูรกตาไปหมดหรือเปล่า ไม่ว่าคุณจะมีของตกแต่งที่มากเกินไปบนผนังห้อง ของกระจุกกระจิกที่โต๊ะเครื่องแป้ง หรือเสื้อผ้าสกปรกกองบนพื้น ยิ่งคุณมีของมากเท่าไหร่ ห้องก็จะยิ่งดูเล็กลงเท่านั้น พยายามจัดระเบียบและเก็บข้าวของให้พ้นสายตาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่อย่ายัดของทั้งหมดเข้าไปใต้เตียง ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยเตือนว่า ของที่เก็บไว้ใต้เตียงจะขัดขวางการไหลของพลังงาน และส่งผลต่อการพักผ่อนของคุณ

2. เก็บห้องไว้เพื่อการนอนเท่านั้น บ้านของเราก็มักจะวุ่นวายพอๆ กับชีวิตของเรานั่นแหละ และบ่อยครั้งที่ห้องนอนก็มักจะต้องทำหน้าที่เป็นห้องทำงานไปด้วย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการนอนหลับบอกว่า คุณควรเอาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การทำงานออกไปจากห้องนอนซะ โต๊ะทำงานและคอมพิวเตอร์จะทำให้จุดประสงค์ของห้องเบี่ยงเบนไป แต่ถ้าคุณไม่มีที่จะวางคอมพิวเตอร์จริงๆ ลองวางมันไว้ในตำแหน่งที่คุณจะไม่เห็นมันเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนหลับตา หรือสิ่งแรกที่เห็นเมื่อลืมตาตื่นในตอนเช้า

3. การตกแต่งควรเรียบง่ายและผ่อนคลาย ห้องนอนไม่ใช่ที่สำหรับทดลองการใช้เทรนด์แปลกๆ เปรี้ยวๆ ไม่ว่ามันจะทันสมัยยังไงก็ตาม การสร้างความรู้สึกสงบและผ่อนคลายควรเป็นหัวใจสำคัญอย่างแรกของการตกแต่งห้องนอน ยึดโทนสี เท็กซ์เจอร์ และของตกแต่งที่จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายในแบบที่คุณชอบ

4. ทุ่มทุนในเรื่องของผ้าปูที่นอน ผิวของคุณจะต้องสัมผัสกับผ้าปูที่นอนเป็นเวลาหกถึงแปดชั่วโมงในแต่ละคืน และคุณจะต้องเห็นผ้าปูที่นอนและเครื่องนอนทุกครั้งที่เข้ามาในห้อง ผ้าปูที่นอนจึงควรปรนเปรอทั้งผิวกายและสายตาของคุณ ผ้าปูที่นอนดีๆ ยังสามารถทำให้ห้องที่แสนเรียบง่ายดูดีขึ้นมาในทันทีอีกด้วย

หวาน...หวาน !!!





































แค่เปลี่ยนมุมคิด โลกก็เปลี่ยนแล้ว


แค่เปลี่ยนมุมคิด โลกก็เปลี่ยนแล้ว


" อย่ากลัวถ้าจะต้องล้มเหลว อย่าอายถ้าบางทีเราต้องพ่ายแพ้บ้าง เราไม่จำเป็นต้องชนะตลอด ไม่จำเป็นต้องเก๋ ต้องเด่นกว่าคนอื่นตลอดเวลา คนที่ไม่กลัวล้มเหลวจะเป็นคนสง่า เพราะหลังจากที่มีความพร้อมและเข้าใจในสิ่งที่จะทำอย่างดีแล้ว เขาก็จะทำ คิด พูด สร้างสรรค์อย่างมั่นใจ จะมีความสง่างามและมีเสน่ห์ในตัวเองได้"

" มีความรักและมีไฟในสิ่งที่ทำอยู่ เมื่อใดก็ตามที่เรารักในสิ่งที่เราทำ เราจะทำได้ดีและไม่รู้สึกเหนื่อย มีไฟ คือมีความอยากและกระตือรือร้นที่จะทำ และทุ่มเทอย่างเต็มที่"

"ใช้ชีวิตอยู่ เพื่อวันนี้ แต่ก็อย่าลืมมองไปข้างหน้าด้วย ประเด็นก็คืออย่าไปพะวงถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึง อย่าไปกังวลถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

คติสอนใจ..จากไม้ขีดไฟ เพียงอันเดียว


ชีวิตคนเราอาจเปรียบได้กับไม้ขีดไฟ

ก้านไม้ขีด..ก็เหมือนกันเวลาชีวิตของเรา

เวลาชีวิตของเรา..หากมองจริงๆ ก็แสนจะสั้นเหลือเกิน เมื่อเรามีบางสิ่งบางอย่างทำ

บางคน..อาจมองว่าชีวิตของเรา ทำไมมันช่างแสนจะยาวนานนัก

เพราะนั่น..คือการที่เรายังไม่ได้จุดไม้ขีดไฟ

เมื่อเกิดการเสียดสีกับกล่องไม้ขีด ไฟก็จะลุกโชน

ในช่วงเวลาที่เราเริ่มจุดไม้ขีดนั้น

ไม้ขีดบางอัน ก็อาจจะลุกติดในทันที แต่บางอัน ก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะติด

ไฟ..ก็เปรียบเสมือนงาน หรือจุดมุ่งหมายของเรา

บางคน...กว่าจะค้นหาเป้าหมายของตัวเองเจอ ก็ช่างนานแสนนาน

และเมื่อจะเริ่มทำเป้าหมายที่วางไว้ให้สำเร็จ..หัวไม้ขีดก็เก่าเสียแล้ว

จะจุดไม้ขีดก็ต้องยากเป็นธรรมดา

เมื่อไฟลุกติด..เมื่อเราเริ่มทำความฝันให้เป็นความจริง

ไฟก็จะมอดก้านไม้ขีด..เวลาแห่งชีวิต เวลาแห่งอิสระก็เริ่มจะสั้นลงๆ

ขณะที่ไฟลามไปยังก้านไม้ขีด

บางอันอาจจะช้า บางอันอาจจะเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งต่างๆ

ตอนที่ไฟลุกอยู่...อาจจะมีลมแรงพัดผ่านเข้ามา อาจจะมีฝนตก ไฟก็อาจจะดับได้

เมื่อลุกมาถึงกลางก้านไม้ขีดแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่ไฟจะกลับมาลุกโชนอีกครั้งได้ง่ายๆ

ก็จำเป็นต้องพึ่งไม้ขีดอีกอัน พึ่งเพื่อนรักของเรา มาประคองไฟให้ลุกใหม่ได้อีกครั้ง

เมื่อจุดหมายของเราใกล้จะประสบความสำเร็จ ก้านไม้ขีดที่เหลือก็มีอยู่น้อยเต็มทีแล้ว

แต่เมื่อใดที่ไฟสุดท้ายของไม้ขีดดับมอดลง เมื่อวาระสุดท้ายของคนเรามาถึง

ก็จำเป็นที่จะต้องจากไป

แต่ประโยชน์ที่เราสร้างไว้ จุดหมายที่ประสบความสำเร็จ ไฟที่สร้างความสว่างไสวเอาไว้

แม้จะเป็นแค่เพียงไฟดวงเล็กๆ แต่ก็ได้สร้างประโยชน์เอาไว้ให้แก่คนรอบข้าง

และบางที

ก้านไม้ขีดไฟอันนี้…ก็อาจนำไปเพื่อจุดกองไฟกองโต

เพื่อความสว่างไสวและอบอุ่นของคนมากมาย..ตลอดคืน

ในทางกลับกัน..บางคนอาจกล่าวว่า

คติสอนใจ..จากไม้ขีดไฟ เพียงอันเดียว

ถ้าเราไม่จุดไฟ..เราก็มีก้านไม้ขีดที่เหลืออีกมากมายเหลือเฟือ

แต่ถ้าหากเราปล่อยก้านไม้ขีดเอาไว้อย่างนั้น

นานวันเข้า..นานวันเข้า

ก้านไม้ขีดก็จะจุดติดยาก หรืออาจจะจุดไม่ติด

พอถึงวันนั้น..

คนที่จะใช้ไม้ขีดก็คงจะทำอะไรไปไม่ได้...นอกจากจะต้องทิ้งไม้ขีดไฟก้านนั้นทิ้งไป...

หยุดที่ใจ


หยุดที่ใจ


เราหยุดกำ หยุดเดิน มานานแล้วมีดวงแก้ว สุกใส ไว้เป็นเพื่อนคอยชี้ชัด ส่องสว่าง พรางย้ำเตือนว่าให้เบือน ออกไป ไกลหนทางเราหยุดใจ ที่ถลำ มานานแล้วแต่ดูแวว คอยตาม ไม่หายห่างโมหะจริต ครอบงำ มิวายวางคงอยากเฉือน ฉีกร่าง ให้วายชนม์ เราหยุดยื้อ แย่งใจ มานานแล้วขอคลาดแคล้ว ความใน ที่สับสนผันผ่านไป จงไป ไม่กังวลไม่ดิ้นรน ไข่วคว้า มานมนานเราหยุดฝัน วันเก่า มานานแล้วเมื่อมันไร้ วี่แวว แล้วอ่อนหวานเลยส่งไป ห่างใจ ไม่ต้องการขอวันวาน สลายไป ในทันที ๚๛

วิธีสมัคร e-mail

ขั้นตอนการสมัคร e-mail

1. คลิกลงทะเบียนเข้าใช้ Windows Live Hotmail ที่นี่










2. กรอกชื่อผู้ใช้เป็นภาษาอังกฤษ (ชื่อที่จะใช้สำหรับเข้าสู่ระบบ หรือชื่ออีเมล์ นั่นเอง)
3. คลิกเลือก hotmail.com (หากแสดงเป็น hotmail.com แล้วก็ไม่ต้องเลือก) โปรแกรมจะตรวจสอบให้โดยอัตโนมัติว่าชื่อที่กรอกสามารถใช้ได้หรือไม่ หากโปรแกรมไม่ตรวจสอบให้คลิกแถบ ตรวจดูว่ามีคำนี้แล้วหรือไม่ จะปรากฏข้อความด้านบนช่องกรอกชื่อหากปรากฏเครื่องหมายถูกและข้อความสีเขียวแสดงว่าสามารถใช้ชื่ออีเมล์นั้นได้ ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนในข้อต่อไปหากปรากฏเครื่องหมายกากบาทและข้อความสีแดงแสดงว่าไม่สามารถใช้ชื่ออีเมล์นั้น ให้เปลี่ยนชื่อผู้ใช้แล้วกรอกชื่อผู้ใช้อีกครั้ง เช่น ครั้งแรกกรอกชื่อ somchai ครั้งต่อไปอาจเติมตัวเลขต่อท้ายชื่อ เป็น somchai456 หรือตัวเลขอื่น ๆ ตามความต้องการ แล้วคลิกแถบ ตรวจดูว่ามีคำนี้แล้วหรือไม่ จนปรากฏเครื่องหมายถูกและข้อความสีเขียว จึงปฏิบัติตามขั้นตอนในข้อต่อไป หมายเหตุ บางครั้งโปรแกรมจะแสดงตัวอย่างชื่ออีเมล์ที่สามารถใช้ได้ ให้เลือกชื่อตามตัวอย่างได้เลย










4. ป้อนข้อมูลในส่วน เลือกรหัสผ่าน ตามคำแนะนำของโปรแกรม













5. ป้อนข้อมูลในส่วน ป้อนข้อมูลเพื่อกำหนดรหัสผ่านใหม่ (ส่วนนี้ไว้ใช้ในกรณีที่เราลืมรหัสผ่าน)












5.1 อีเมล์สำรองหากไม่มี ไม่ต้องกรอก (สามารถเพิ่มภายหลังได้)

5.2 เลือกคำถามที่ต้องการ ควรจดจำหรือจดบันทึกคำถามไว้ในสมุด

5.3 ตอบคำถามที่เลือกจากข้อ 5.2 ควรจดจำหรือจดบันทึกคำตอบไว้ในสมุด

6. ป้อนข้อมูลในส่วน ข้อมูลของคุณ แนะนำให้กรอกเป็นภาษาไทยปีเกิด ให้กรอกเฉพาะปี ค.ศ. ที่เกิด โดยใช้ปี พ.ศ. เกิดลบด้วย 543 ตัวอย่าง เกิดปี พ.ศ. 2536 จะได้เป็น 2536 - 543 = 1993นำตัวเลข 1993 กรอกในช่องปีเกิด












7. พิมพ์อักขระตามที่คุณเห็นในภาพ ลงในช่อง พิมพ์อักษร













8. คลิก ยอมรับ (ควรศึกษา ข้อตกลงการใช้บริการ Windows Live และ คําชี้แจงสิทธิส่วนบุคคล ด้วย)











9. เมื่อคลิกยอมรับจะปรากฏหน้าต่างใหม่ ให้คลิกแถบ ขอรับเวอร์ชั่นคลาสสิค (ให้สังเกตชื่ออีเมลของเราจะปรากฏบริเวณมุมขวาบน ซึ่งเป็นชื่อที่เรากรอกตามขั้นตอนในข้อ 2 และข้อ 3 นั่นเอง)












10. ปรากฏหน้าต่างอีเมล์ Windows Live Hotmail แสดงว่าการลงทะเบียนขอใช้อีเมล์จาก Windows Live Hotmail ถูกต้องพร้อมใช้ต่อไป (สังเกตชื่ออีเมลของเราจะปรากฏบริเวณมุมขวาบน) อย่าลืม!! ก่อนออกจากระบบคลิก"ลงชื่อออก"ทุกครั้ง















...สามัคคี...


...สามัคคี...


ความสามัคคี ย่อมเกิดจาก
(๑) ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน
(๒) พูดจาอ่อนน้อมอ่อนหวานต่อกัน
(๓) ช่วยเหลือกันในยามยาก
(๔) วางตนเสมอกันในความเป็นอยู่
(๕) ไม่ใช้ความรุนแรงต่อกัน
(๖) ไม่ถือความขัดแย้งกันทางความคิด เป็นเรื่องสำคัญ
(๗) ไม่เอาแพ้เอาชนะกัน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะชนะเขาก็ต้องได้รับการจองเวร แพ้เขาก็ช้ำใจ ไม่แพ้ไม่ชนะใคร สงบ สบาย ไม่วุ่นวายประการใด ความชนะที่มีคุณค่า คือ ความชนะใจของตัวเองเป็นคุณค่ามหาศาล การที่คนเรา มีความคิดเห็นไม่ตรงกันหรือขัดแย้งกัน เป็นเรื่องธรรมดา เพราะคนเราย่อมมีความคิดเห็นต่างกันได้ ตามสภาพของจิตใจของใครของมัน ถ้ามีความปรารถนาดีต่อการงานของหมู่คณะ มีความรักหมู่คณะ ก็สามารถทำงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา เหมือนชอบรสอาหารไม่เหมือนกัน เป็นเรื่องธรรมดา
มีความรักกันก็สามารถรับประทานร่วมกันได้ด้วยดี เพลิดเพลินสนุกสนาน โปรดเข้าใจว่า คนที่มีความคิดเห็นไม่เหมือนเรา ไม่ใช่คนเลวทรามเสียหาย เป็นคนดีเหมือนเรานั่นเอง การทำให้คนที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ทำงานด้วยกันได้ มีความสามัคคีปรองดองกัน เป็นความสามารถของการปกครอง และการบังคับบัญชาบุคคลของนักบริหาร เครื่องวัดความคิดเห็นว่าจะตรงจุดหมายหรือไม่นั้น ได้แก่
(๑) ระเบียบแบบแผน (๒) ขนบธรรมเนียมประเพณี (๓) เหตุผล (๔) ข้อเท็จจริง (๕) กฎธรรมดา (๖) ความยอมรับของมหาชน ความสงบชั้นสุดยอด หมายถึง ความสงบของจิตใจจากการเจริญกรรมฐาน คือ ใจอยู่ในปรกติภาพตลอดเวลา และอิสรภาพตามธรรมชาติของมัน
เวลามีอารมณ์มากระทบก็ไม่หวั่นไหว ไม่กระเทือนประการใด ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มาถึงก็ไม่ดีใจ ความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ มาถึงก็ไม่เสียใจ มีอุเบกขา คือ ความวางเฉย หรือความรู้สึกเฉย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาถึง เมื่อไม่มีอารมณ์เป็นอย่างไร มีอารมณ์มาถึง ก็เป็นอย่างนั้น เป็นเครื่องบังคับ คือ สติสัมปชัญญะ
ท่านสาธุชนทั้งหลาย การเจริญกรรมฐานจึงมีประโยชน์ในชีวิตของเรา ทำให้อายุยืนยาวต่อไปได้ และสามารถใช้ชีวิตต่อการงานและหน้าที่ที่ถูกต้อง
ไม่เอาถูกใจเหมือนแต่ก่อนมา และสภาพความเป็นอยู่ในชีวิตนี้ของท่าน จะเจริญรุ่งเรืองวัฒนาสถาพรต่อไปได้อย่างสมปรารถนาทุกประการ

"รัก" มีแต่สิ่งดี ดี ให้กันและกัน...



"รัก" มีแต่สิ่งดี ดี ให้กันและกัน...


"รัก" ไม่มีคำว่าเศร้า ทุกข์ ขมขื่น หรืออะไรที่ทำให้รู้สึกไม่ดี ..."รัก" มีแต่สิ่งดี ดี ให้กันและกัน...สิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจาก


"รัก" แต่เกิดจากการคาดหวังที่แต่ละคนคิดว่าหากรักกันแล้ว…ต้องทำให้ได้ทุกอย่างในความเป็นจริงแล้วใช่อย่างนั้นหรือ…การคาดหวังเกิดขึ้นได้กับทุกคน…


แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสิ่งที่คาดหวังของคนสองคนไม่ตรงกัน…คุณคงนึกภาพออก…

แล้วถ้ายิ่งคุณทำอะไรให้กับคนที่คุณรักแล้วแต่...ไม่ตรงกับที่คนรักคุณคาดไว้...สิ่งนั้นก็หมดความหมาย...คนทำก็หมดกำลังใจ...ทำตั้งเยอะไม่ได้อะไรตอบแทนเลย...จึงกลายเป็นการเรียกร้องเกิดขึ้น...


เมื่อคุณเป็นฝ่ายให้แล้ว ทำไมอีกฝ่ายไม่เป็นฝ่ายให้บ้าง ?...

โดยคุณอาจลืมไปว่าอีกฝ่ายก็ได้ให้คุณเหมือนกันเพียงแต่สิ่งนั้นไม่ได้ตรงกับที่คุณคาดไว้...และมันไม่มีความหมายกับคุณเลย ...เมื่อคนสองคนคิดไม่ตรงกัน…ที่ต้องการจะเป็นฝ่ายรับ...หรือเรียกร้องที่จะรับโดยบอกให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายให้...ความทุกข์ต่างๆ ก็จะตามมา...


"รัก" ไม่ต้องคาดหวัง…ทำให้ เมื่ออยากทำ…ไม่ต้องรอสิ่งตอบแทน…และรับในสิ่งที่อีกฝ่ายให้ เมื่อเขาอยากให้…ไม่ต้องเรียกร้องเป็นตัวของตัวเองในบางครั้ง…โอนอ่อนในบางที...สิ่งดี ดี ก็จะเกิด ..."รัก"...ก็จะปรากฎ...

สิ่งที่ได้สะสมมา


ถ้า "ไม่รู้"....สิ่งที่ได้สะสมมา ในแสนโกฏฏ์กัปป์ ที่ผ่านมา ที่ทำให้เรามีนิสัยเป็นอย่างนี้...มีความคิดเป็นอย่างนี้. และถ้าหาก "ยังไม่รู้".........ต่อๆไปอีก ก็จะยิ่งเป็นการสะสมอกุศล ต่อๆไปอีก. ถ้าขณะนี้....เรากำลัง "สะสมฝ่ายปัญญา" ที่จะทำให้เราเข้าใจ ในสิ่งซึ่งมีในขณะนี้. ความเข้าใจนี้ ก็จะ เป็นเหตุปัจจัย ที่ทำให้เราสามารถเข้าใจ ไปถึงอดีต และ อนาคตด้วย. คือ ความเข้าใจ ว่า เดี๋ยวนี้ที่มี เพราะมีเหตุในอดีต ไม่ใช่เพราะใครทำเลย แต่เป็นเพราะ เหตุในอดีต ทั้งนั้น. ก็แล้วแต่เหตุปัจจัย.......ซึ่ง จะต้องมีแน่นอน ตราบใด....ที่ยังไม่ถึงจุติจิต ของพระอรหันต์. และ "ผล" จะเกินกว่า "เหตุ"........ เป็นไปไม่ได้.! เช่น คนที่แสนจะดี........ก็มีอาการที่ไม่ดี เกิดขึ้นมา ส่วนคนที่แสนจะไม่ดี....แล้วเกิดมี อาการที่ดีขึ้นมา ก็ต้องมาจาก "เหตุ" ที่ได้ทำเอาไว้แล้ว ตั้งแต่เมื่อไร...ก็ไม่มีใครรู้ได้. หมายความว่า.............................. สิ่งใดที่หมดไปแล้ว และผ่านไปแล้ว ก็คือหมดไปแล้ว จริงๆ และ ถ้าเราจะมีความสบายใจจริงๆ ก็คือ เรามีความเข้าใจ ว่า ไม่มีอะไรแล้ว เพราะว่า หมดไปแล้ว. และตั้งต้นใหม่..........ด้วยกุศลจิต มิฉะนั้น จิตของเราก็จะเศร้าหมอง เศร้าหมอง เพราะไปกังวลกับอกุศลที่ผ่านมาแล้ว จิตที่เศร้าหมอง ไม่ใช่ปัญญา และ ไม่มีประโยชน์. ถ้าเป็น ปัญญา คือ รู้ความจริงในขณะนี้.! เมื่อรู้ความจริงแล้ว ก็ ตั้งต้นใหม่...ด้วยกุศล. ก็แสนที่จะเบา สบาย เพราะว่า อกุศลหมดไปแล้ว หมดแล้ว หมดเลย. เพราะฉะนั้น.........การที่เราจะตั้งต้นใหม่ เราจะมั่นคงในกุศลขึ้น....ด้วยสติปัญญา. และ.....ความเข้าใจในธรรมยิ่งขึ้น จะทำให้เรา มั่นคงในกุศลธรม ได้. ถ้าปัญญาของเรา มีน้อย....กุศลของเรา ก็ไม่มั่นคง. กุศลของเรา จะมั่นคงได้ เพราะเรามีปัญญา รู้สภาพธรรมที่เป็นความจริง เช่น เรื่องของกรรม เรื่องของวิบาก เรื่องของอนัตตา เรื่องของนามธรรม และ รูปธรรม. เพราะที่แล้วมา ก็เป็นผลของกรรม เดี๋ยวนี้.....ก็กำลังเป็นผลของกรรม และเดี๋ยวนี้ ก็เป็นเหตุ ที่จะทำให้เกิดผลข้างหน้าด้วย. เพราะฉะนั้น เราจะมีความมั่นคง ในกุศลธรรม ถ้าเรารู้ว่า อกุศลกรรม ให้ผล เป็นอกุศลวิบาก. และจะเป็นเหตุที่ทำให้เรามี หิริ โอตตัปปะ รังเกียจในอกุศลทั้งหลาย ซึ่งหมายความว่า สติ เกิดเมื่อไร...........เราก็ไม่เอาอกุศลเลย เพราะว่า..............สติ ไม่เกิดกับอกุศลจิต.!

หากเหนื่อยล้าก็วางสิ่งที่อยู่บนบ่าไว้บ้าง


ภาระหน้าที่....ความรับผิดชอบ ก็เหมือนสิ่งของชิ้นหนึ่ง ที่เราแบกมันไว้ตลอดเวลา หลายครั้งหลายหน ที่สิ่งของชิ้นนี้มันทำให้เราเหน็ดเหนื่อยกับการแบกมันไว้ แต่การทิ้งขว้างก็ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก แล้วเราจะจัดการกับสิ่งที่มันหนักอึ้งนี้อย่างไร วันไหนที่รู้สึกเหนื่อยล้าจนทนไม่ไหว ลองเก็บภาระหน้าที่และความรับผิดชอบใส่กล่องใบใหญ่ ปิดฝาให้สนิทแต่ไม่ถึงกับต้องติดสก๊อตเทปหรอกนะ เพราะถึงอย่างไรคุณก็ต้องเปิดมันออกมาอยู่ดี เราแค่จะปิดมันไว้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แล้วแอบมันไว้ตรงไหนสักมุมนึง ที่เราไม่สามารถมองเห็นมันได้อีกในช่วงระยะเวลาของการปลดปล่อย เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ ลองสำรวจตัวเองดูหน่อยดีมั๊ย คุณละเลยตัวเองมานานแค่ไหน คุณใช้เวลาไปกับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบมานานเท่าไหร่ สุขภาพร่างกายคุณใช้งานมันหนักหนาสาหัสเพียงใด คุณละทิ้งความสุขเพราะมั่วยุ่งกับภาระหน้าที่ที่แสนหนักอึ้งได้อย่างไร หากวันนี้คุณจะวางทุกอย่างลงบ้าง อย่างน้อยแค่ซักช่วงเวลานึง มันก็เหมือนการได้เติมพลังให้กับตัวเองอีกครั้ง พลังในตัวเองที่มีอยู่ถ้าแค่ได้แต่ใช้ไป ไม่มีการเติมเต็มมันย่อมมีวันหมด เมื่อถึงวันนั้นเราอาจจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นมา และต้องละทิ้งภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบตลอดไปก็อาจเป็นได้ งั้นถ้าวันนี้มันเหนื่อยล้า..... ก็วางสิ่งที่อยู่บนบ่าไว้บ้างนะ แต่..ด้วยความรักที่มีต่อลูก ไม่ว่าจะหนักเพียงใด แม่ก็ไม่เคยวางซะที

รู้จักกันมั้ย "โรคอกหัก"


เขาว่ากันว่า ความรักนี้ช่างมหัศจรรย์นักหนา เพราะแค่คำว่ารัก คำเดียว สามารถเปลี่ยนคนเราให้ขาวกลายเป็นดำได้ สามารถทำให้คนหดหู่กลายเป็นคนสดใสขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเราต้องเจอกับความไม่สมหวังในความรัก รักนั้นก็อาจจะกลายเป็นยาพิษที่สามารถทำให้เราทรมานทั้งร่างกายและจิตใจได้ อย่างที่เรียกกันบ่อย ๆ ว่า "อกหัก" เมื่อก่อนนี้เราอาจจะมองว่า "อกหัก" เป็นแค่อาการ ๆ หนึ่งที่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราไม่สมหวังในความรัก รักเขาแล้ว แต่เขาไม่รักตอบกลับไปรักคนอื่นที่ไม่ใช่เราแทน
แต่คุณทราบหรือไม่ว่าเดี๋ยวนี้ "อกหัก" ไม่ใช่แค่อาการธรรมดา ๆ แล้วนะ เพราะล่าสุดนักวิจัยจากประเทศออสเตรีย ระบุว่า อกหัก ถือเป็น "โรค" อย่างหนึ่งได้ เพราะมันมีผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ที่เป็นโรคอกหักเลยทีเดียว
อาการทางร่างกาย ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ นอนไม่ค่อยหลับน้ำหนักลดลง ไม่เจริญอาหาร ภูมิคุ้มกันลดลง ในขณะที่อาการทางจิตใจก็คือ เครียด รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ไม่มีเรี่ยงแรง ไม่ค่อยมีสติ
ซึ่งอาการดังกล่าวนี้ส่งผลให้ผู้ป่วยมีร่างกายและสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ หากไม่ได้รับการรักษาเยี่ยวยาที่ถูกต้องอาจจะนำพาไปสู่ภาวะขาดสติจนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายเลยทีเดียว
โดยการรักษานั้นนักวิจัยกล่าวว่า ให้ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับรักครั้งเก่า ให้คนรอบข้างหมั่นพาไปในสถานที่ที่ยังไม่เคยไปด้วยกันมาก่อน หรือลองหากิจกรรมใหม่ ๆ ทำด้วยกัน แต่ทั้งนี้ หากเป็นคนที่มีจิตใจที่อ่อนแอมาก ๆ แนะนำว่าให้ควรพบจิตแพทย์ เพราะคุณหมอจะช่วยเยียวยาได้ดีที่สุด เนื่องจากผู้ที่มีจิตใจที่อ่อนแอมีแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตายง่ายกว่าคนที่มีจิตใจที่เข้มแข็ง

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552

มินต์

ตามรอย The Sound of Music ที่ออสเตรีย

feem

feem
[12402916292741481.jpg]

TAEW

TAEW




[Picture+013.jpg]

aommiza

aommiza

[sakid_dispay_4.gif]

ประวัติ ทัชมาฮาล








ประวัติ

ทัชมาฮาล สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์อินเดียผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ เจ้าชายขุร์รัม ชึ่งต่อมาคือจักรพรรดิชาห์ ชหาน พระราชสมภพในปี พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1592) พระบิดา คือ จักรพรรดิ ชาห์ ชหานชีร์ จักรพรรดิองค์ที่สี่แห่งราชวงศ์โมกุล แห่งอินเดีย ตามตำนานกล่าวว่า เจ้าชายขุร์รัม ได้พบกับ อรชุมันท์ พานุ เพคุม ธิดาของรัฐมนตรี เมื่อพระองค์ มีพระชนมายุ 14 พรรษา พระองค์ทรงหลงใหลและหลงรักนาง เจ้าชายขุร์รัมจึงซื้อเพชรด้วยเงิน 10,000 รูปีและบอกแก่พระบิดาของพระองค์ว่าพระองค์มีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับบุตรสาวของรัฐมนตรี พิธีอภิเษกถูกจัดขึ้นหลังจากนั้น 5 ปี ในปี พ.ศ. 2155 (ค.ศ. 1612) จากนั้นมาทั้งสองก็มิเคยอยู่ห่างกันอีกเลย
หลังจากที่พระเจ้าชาห์ ชหาน ขึ้นครองราชบัลลังก์ในปี
พ.ศ. 2171 พระองค์มอบความไว้วางใจแก่ อรชุมันท์ พานุ เพคุม และเรียกนางว่า มุมตัซ มาฮาล "อัญมณีแห่งราชวัง" พระมเหสีติดตามพระองค์ แม้แต่ในสนามรบ แนะนำพระองค์ในเรื่องราชการของประเทศ และพระองค์ซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระมเหสียิ่งนัก ครั้นในปี พ.ศ. 2174 (ค.ศ. 1631) พระมเหสีมุมตัซสิ้นพระชนม์ หลังจากให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 การสิ้นพระชนม์ของพระมเหสีทำให้พระเจ้าชาห์ ชหานโศกเศร้าอยู่ถึงสองทศวรรษ ราชสมบัติส่วนใหญ่สูญเสียไปเพื่อการสร้างอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสองพระองค์

ในปี
พ.ศ. 2200 (ค.ศ. 1657) พระเจ้าชาห์ ชหานทรงพระประชวร และในปี พ.ศ. 2201 (ค.ศ. 1658) พระโอรส โอรังเซบ จับพระเจ้าชาห์ ชหานขัง และขึ้นครองราชบัลลังก์แทน พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระเจ้าชาห์ ชหานถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าพระเจ้าชาห์ ชหาน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับประมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมตัซ มาฮาล
ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งใน
เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ทัชมาฮาลตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องแจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้ ส่วนหัวของทัชมาฮาลมีลักษณะโดมที่เรียกว่าโอเนียนโดม

เหตุผลที่ได้รับคัดเลือกเป็นมรดกโลก
ทัชมาฮาลได้ถูกรับเลือกเป็น
มรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2526 โดยมีเหตุผลตามเกณฑ์การพิจารณาคือ
1.เป็นตัวแทนซึ่งแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันฉลาด







===> ทัชมาฮัล <===

ถ้าถามว่า “ความรักคืออะไร“…. อย่าคิดหาคำตอบให้เสียเวลา…เพราะว่าเราจะไม่ได้ความหมายที่แท้จริงเลย คำๆ นี่ไม่มีแม้กระทั่งคำจำกัดความของตัวมันเอง เรารู้แต่เพียงว่า “ความรัก” นั้น สามารถบันดาลให้เกิดขึ้นได้ทุกสิ่งทัชมาฮัล คือตัวอย่างของตำนานแห่ง “ ความรัก” ที่ปราศจากนิยามคำนี้ ผู้ที่สร้างตำนานความรักอันยิ่งใหญ่คือ กษัตริย์ชาห์ญะฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์โมเลกุล ที่ทรงโปรดให้สร้าง ตาซมะฮัล หรือ ทัชมาฮัลขึ้นเป็นอนุสรณ์แทนความรักที่พระองค์มีต่อมเหสีคือ พระนางมุมตาซ มะฮัล จนสถานที่แห่งนี้กลายเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่งดงามที่สุดในโลก กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ทรงเป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ญะฮางงีร์ ทรงประสูติเมื่อปี ค.ศ. 1592 เป็นที่ร่ำลือตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้าชายที่ทรงเคร่งขรึม ในพระทัยเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม ความเป็นคนอมทุกข์ของพระราชโอรสสร้างความหนักพระทัยให้กับพระราชบิดาเป็นอย่างมาก กษัตริย์ญะฮางีร์ ทรงแนะนำให้พระราชโอรสดื่มน้ำจัณฑ์และหาความสำราญพระทัย ด้านต่างๆ มาสู่พระราชโอรส แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ชาห์ ญะฮาน ยังทรงเคร่งขรึมไม่เบิกบานพระทัยเช่นเดิมจนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าชายได้เสด็จประพาสตลาดและได้พบกับสาวน้อยวัย 14 ปี นามว่า อรชุนด์ บาโน เบคุม เป็นบุตรสาวของ อะซีฟ ข่าน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1592 และมีเชื้อสายเปอร์เซีย เพียงได้เห็นดวงหน้าของนางครั้งแรกเจ้าชายก็เกิดรักแรกพบขึ้นที่ตลาดนั่นเอง 3 ปีให้หลัง พิธิอภิเษกสมรสของเจ้าชายก็ถูกจัดขึ้นในปี ค.ศ. 1612 หลังจากพิธีอภิเษก อรชุนด์ บาโน เบคุม ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า มุมตาซ มะฮัล ซึ่งแปลว่า อัญมณีแห่งปราสาท หลังจากนั้นเป็นต้นมาเจ้าชายก็ทรงเปลี่ยนไป เพราะเบิกบานพระทัยยิ่งนัก อีกทั้งสองพระองค์ก็เป็นคู่รักที่ไม่เคยแยกจากกันเลย ในปี ค.ศ. 1628 เจ้าชายเสด็จขึ้นครองราชบังลังก์ ทรงพระนามว่า กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โดยมีพระนางมุมตาซ มะฮัล เป็นพระมเหสีคู่พระทัย พระนางทรงเป็นทั้งคู่คิดและที่ปรึกษา และ มีส่วนในการช่วยเหลือพระสวามีในการปกครองบ้านเมือง อีกทั้งยังทรงเป็นที่รักใคร่ของพสกนิกรทั่วหล้าพระนางมุมตาซ มะฮัล ทรงให้กำเนิดพระราชโอรสและพระราชธิดารวม 14 พระองค์ หลังจากทรงให้กำเนิดพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในช่วงปี ค.ศ. 1631 พระนางได้เสด็จร่วมกรีธาทัพกับพระสวามี ณ เมืองเดคข่าน แต่ระหว่างเสด็จกลับพระนครพระนางก็ทรงพระประชวรและสิ้นพระชนม์ในที่สุดขบวนเคลื่อนพระศพสู่พระนครนั้น ถูกจัดอย่างเอิกเกริกมโหฬาร ตลอดเส้นทางที่เคลื่อนขบวนมีการโปรยทานแก่คนยากจน เมื่อขบวนเคลื่อนเข้าใกล้กรุงอาครา ผู้ที่อาลัยรักพระนางต่างมาสมทบมากขึ้นจนเป็นขบวนแห่พระศพที่ยิ่งใหญ่มากกษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โปรดให้นำอาหารมาเลี้ยงแก่ประชาชนทั้งหลายอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการทำบุญอุทิศแก่พระมเหสีอันเป็นที่รักยิ่ง การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของพระมเหสีสุดที่รักสร้างความโทมนัสตรอมพระทัยให้กับกษัตริย์ชาห์ญะฮานเป็นอย่างมาก พระองค์ไม่ทรงเสวยและไม่ทรงพระบรรทม ทรงแต่ฉลองพระองค์ด้วยเครื่องนุ่มห่มสีขาวเป็นการไว้ทุกข์ และทรงเสด็จเยี่ยมหลุมฝังศพของพระนางทุกวันศุกร์ด้วยความอาลัยรักอย่างยิ่ง จึงโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์แห่งความรักขึ้นมาอย่างวิจิตรอลังการ และให้ชื่อเรียกว่า ตาซ มะฮัล สร้างอยู่บนพื้นที่ 42 เอเคอร์ ริมฝั่งแม่น้ำยมุนาในการก่อสร้างนั้น กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โปรดให้ระดมช่าง ศิลปิน และสถาปนิกที่ได้ชื่อว่าฝีมือดีเยี่ยมที่สุดจากหลายๆ ที่ ประมาณ 20,000 คน ใช้เวลาการในก่อสร้าง 22 ปี สิ้นค้าใช้จ่ายในการก่อสร้างไปประมาณ 45 ล้านรูปี พระอนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างด้วยศิลาขาวทั้งหมดมีโดมทรงกลมเด่นอยู่ตรงกลาง สูงถึง 72 เมตร บริเวณโดยรอบมีผนังศิลาแลงล้อมรอบ ประตูทางเข้าวางอยู่บนฐานศิลาแลง บริเวณทางเข้ามีสระน้ำหินอ่อนสีขาวรอบทางเดินเป็นสวนดอกไม้นานาพันธุ์ตำแหน่งที่เป็นที่วางพระศพของพระนางมุมตาซ ทำเป็นแท่นรูปบัวตูม ส่วนหีบพระศพเป็นหินอ่อนสีขาวแกะสลักอย่างงดงาม หลังจากที่เป็นที่สร้างทัชมาฮาลเสร็จแล้ว กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ได้เสด็จมายังสถานที่แห่งนี้เสมอๆ จนกระทั่งในค.ศ. 1658 ก็ทรงล้มป่วย พระราชโอรสองค์ที่ 3 คือ ออรังเซป ก็ตั้งตนขึ้นครองราชบัลลังก์แทน และจับกษัตริย์ชาห์ ญะฮาน พระราชบิดา กักขังไว้จนสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1666ก่อนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ระหว่างที่ถูกกักขังอยู่กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน เฝ้าแต่นั่งจ้องมองดูกระจกชิ้นเล็กๆ ที่ส่องสะท้อนออกไปเห็นทัชมาฮัล พระองค์สวรรคตพร้อมด้วยกระจกที่กำแน่นอยู่ในพระหัตถ์ และ พระบรมศพของพระองค์ก็ได้ถูกนำไปฝังในทัชมาฮัล เคียงข้างกับพระมเหสีสุดที่รัก ตามพระประสงค์ที่ทรงต้องการจะอยู่เคียงคู่กันตราบชั่วนิจนิรันดร์ ตำนานอันเลื่องลือของความรักที่ปรากฏไปทั่วโลกเรื่องนี้ยังมีเรื่องเล่าในอีกแง่มุมหนึ่งเกิดขึ้นมาที่ว่ากันว่ากษัตริย์ชาห์ ญะฮาน สร้างทัชมาฮัลขึ้นมาด้วยความเห็นแก่ตัว โดยไม่คิดถึงหลักมนุษยธรรม และทัชมาฮัลก็กลายเป็นที่เกลียดชังของทุกคนเพราะในการสร้างทัชมาฮัล กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ระดมช่างฝีมือดีมาเป็นจำนวนมากและมีกฎว่าต้องสร้างให้เสร็จตามกำหนดเวลา ถ้าสร้างไม่เสร็จก็จะถูกลงโทษ และยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เมื่อสร้างทัชมาฮัลเสร็จแล้ว ช่างทุกคนก็ถูกฆ่าตาย จนหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ไปสร้างสถานที่ที่งดงามเช่นนี้เลียนแบบไว้ที่ไหนอีกบ้างก็ว่า กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน อาจะไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างทัชมาฮัลให้ยิ่งใหญ่เพื่อความรัก แต่มีแผนการที่จะสร้างปราสาทที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เพื่อสนองความต้องการ - ของตัวเอง และในการสร้างทัชมาฮัลนี้ ทำให้ประเทศอินเดียต้องสูญเสียเงินที่จะมาสร้างความเจริญให้กับประเทศ ไปถึง 250 ปี อย่างไรก็ตาม โลกก็ได้ให้รางวัลสำหรับ - ความยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ด้วยการจัดให้ทัชมาฮัล เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตราบมาจนถึงปัจจุบันนี้


...เพียงแค่พอ...


ความคิดอย่างหนึ่งที่ควรฝึกให้เกิดขึ้นประจำ คือ... ความคิดที่ว่า “พอ” คิดให้รู้จักพอ ผู้รู้จักพอจะเป็นผู้ที่มีความสบายใจ ส่วนผู้ที่ไม่รู้จักพอ... จะเป็นผู้ร้อนเร่า ความไม่รู้จักพอ มีอยู่ได้แม้ในผู้มั่งมีมหาศาล และความรู้จักพอ ก็มีได้แม้ในผู้ยากจน ทั้งนี้ก็เพราะความพอเป็นเรื่องของใจ คนรวยไม่รู้จักพอ... ก็เป็นคนจนอยู่ตลอดเวลา คนจนรู้จักพอ... ก็เป็นคนมั่งมีอยู่ตลอดเวลา

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

เนื้อเพลง

Song: From The Bottom Of My Broken Heart
 Artist: Britney Spears

"Never look back," we said
How was I to know I'd miss you so?
Loneliness up ahead, emptiness behind
Where do I go?

And you didn't hear
All my joy through my tears
All my hopes through my fears
Did you know, still I miss you somehow

From the bottom of my broken heart
There's just a thing or two I'd like you to know
You were my first love, you were my true love
From the first kisses to the very last rose
From the bottom of my broken heart
Even though time may find me somebody new
You were my real love, I never knew love
'Til there was you
From the bottom of my broken heart

"Baby," I said, "please stay.
Give our love a chance for one more day"
We could have worked things out
Taking time is what love's all about

But you put a dart
Through my dreams through my heart
And I'm back where I started again
Never thought it would end

You promised yourself
But to somebody else
And you made it so perfectly clear
Still I wish you were here

"Never look back," we said
How was I to know I'd miss you so?


เราคุยกันไว้ว่าจะไม่เหลียวหลังกลับ
อยากรู้ว่าฉันจะเป็นเช่นไรเมื่อยามใดที่ฉันคิดถึงเธอ
ความเงียบเหงาอยู่เบื้องหน้า ความเปล่าเปลี่ยวอยู่เบื้องหลัง
ฉันควรไป ณ ที่แห่งใด

และสิ่งที่เธอไม่เคยได้รับฟัง
น้ำตาซึมผ่านความร่าเริงทั้งหมดของฉัน
ความหวาดกลัวพาดผ่านความหวังทั้งหมดของฉัน
เธอรู้บ้างไหม ฉันยังคงคิดถึงเธอ

จากก้นบึ้งของหัวใจที่เจ็บช้ำ
มันมีบางสิ่งที่อยากให้เธอรู้
เธอคือรักครั้งแรกของฉัน เธอคือรักแท้ของฉัน
จากจูบแรกไปจนถึงดอกกุหลาบดอกสุดท้าย
จากก้นบึ้งของหัวใจที่เจ็บช้ำ
แม้ว่าเวลาจะนำพาให้ฉันพบใครสักคน
เธอคือรักที่แท้จริงของฉัน ฉันไม่เคยรู้จักความรัก จนวันที่ฉันได้พบเธอ

”ที่รัก อยู่ที่นี่เถิดนะ ให้โอกาสความรักของเราอีกสักวันจะได้ไหม”
เราสามารถผ่านพ้นทุกอย่างไปด้วยกันได้
ให้เวลาบอกว่าความรักนี้ควรเป็นเช่นไร

แต่เธอได้ปล่อยฉันไปอย่างรวดเร็ว
ข้ามผ่านความฝัน ผ่านหัวใจของฉัน
ฉันกลับไปไปเริ่มใหม่อีกครั้ง
ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวมันจะต้องจบลง

เธอให้สัญญากับตัวเธอเอง
แต่มันสำหรับใครที่ไม่ใช่ฉัน
เธอได้ทำให้เห็นอย่างชัดเจน
แต่ถึงกระนั้น ฉันก็ยังหวังว่าเธอจะอยู่กับฉันตรงนี้เช่นเดิม

เพลง


from the bottom of my broken heart - Britney Spears

min

^_^

สวยดี


^^

ไม่น่าเชื่อ คนนอนดึกทำงานได้เปรียบกว่าคนนอนเร็ว

หลังนักวิจัยเมืองผู้ดี ทำงานวิจัยพบ ผู้ที่นอนดึกมีความฉลาด และอดทนอึดเหนือกว่า โดยจะเหนื่อยเร็วในการทำงานน้อยกว่าเพื่อนผู้ที่นอนหัวค่ำและตื่นพร้อมกับไก่ขัน


การศึกษาล่าสุด ตัดสินชี้ขาดว่า ผู้ที่นิสัยนอนดึก มีความฉลาด และอดทนอึดเหนือกว่าผู้ที่ชอบนอนแต่หัวค่ำ โดยหนังสือพิมพ์รายวัน "เดลี่ เมล์" ของอังกฤษ ได้เสนอข่าวการศึกษาเรื่องนี้ว่า นักวิจัยได้พบในการศึกษาว่า ผู้ที่นอนดึก จะเหนื่อยเร็วในการทำงานทำการ น้อยกว่า เพื่อนผู้ที่นอนหัวค่ำและตื่นพร้อมกับไก่ขัน

นักวิจัยได้จับอาสาสมัครทั้งสองพวก มาทดสอบการทำงานและการมีสมาธิ โดยปล่อยให้คงเข้านอนและตื่นตามความเคยชินปกติ พวกที่มีนิสัยแบบนกฮูก เข้านอนทีหลัง 4 ชม. เมื่อตื่นนอนขึ้น ทั้งสองพวกยังคงทำงานทำการเหมือนอย่างปกติคล้ายกัน หากแต่เมื่อเวลาผ่านไปสัก 10 ชั่วโมง พวกกลุ่มคนนอนดึกกลับแสดงความเหนือกว่า ทั้งทำงานเสร็จเร็วกว่า และมีความแน่วแน่ในการงานดีกว่า

เมื่อตื่นนอนมาเป็นเวลานานพอ ๆ กัน ผู้ที่ชอบนอนหัววันจะชักง่วง และเมื่อตรวจสมองด้วยเครื่องมือตรวจคลื่นสมองดู ก็พบส่วนของสมองเกี่ยวกับความแน่วแน่ในกิจการงานจะเกิดล้าลง


วารสาร "วิทยาศาสตร์" ของเมืองน้ำชา ซึ่งได้รายงานผลการศึกษา รายงานไว้ด้วยว่า บุคคลผู้มีชื่อเสียงของโลกที่มีนิสัยนอนดึก มี ชาร์ลส์ ดาร์วิน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และอดีตนายกรัฐมนตรีวินสตัน เชอร์ชิล รวมอยู่ด้วย

ลักษณะสาว 12 ราศี

สาวราศีเมษ**
พรุ่งนี้ยังไม่สาย คือ คติประจำใจของสาวๆหน้าใสๆ
สาวราศีเมษ ที่เกิดระหว่าง 16 เม.ย - 15 พ.ค.สาวราศีนี้มีสัญญลักษณ์เป็นกลุ่มดาวรูปแกะ
มักมีรูปร่างที่สง่างาม เป็นสาวที่แข็งแกร่ง ทรงเสน่ห์
และทรงพลังเลยทีเดียวล่ะสิ่งดีๆเคียงข้างกายสาวราศีเมษก็คือ
สีเวิร์คสุดๆก็นี่เลยสีแสดเจ้าค่ะ
อัญมณีสุดเดิร์น โกเมน กับพลอยสีส้ม
ต้นไม้คู่ชีพ ไทเกอร์ลัลสีส้มอมแดงมีจุดสีดำ
สัตว์พาโชค ต้องเป็นแกะแน่
โลหะนำโชค เหล็กไงจ๊ะ นี่แหละคือเธอ สาวราศีเมษ
1 ลางสังหรณ์ เธอเฉียบ
2 ชอบนัก เรื่องท้าทาย
3 บุคลิกน่าเกรงขาม
4 มองโลกในแง่ดีตลอด
5 ดื้อไม่เบาเลยเธอเนี่ย
6 ความอดทนมีน้อย ต้องระวัง
7 ความรับผิดชอบเธอมีสูงมาก ขอชม
8 ทำอะไรก็สำเร็จไปหมด
9 ห้าวหาญไม่แพ้หนุ่มๆเชียวล่ะ
10 โกรธง่ายชะมัดเลย เธอเนี่ย
11 อารมณ์ดี นี่ล่ะ jokestar
12 เขาว่าเธอหยิ่ง จริงป๊ะ
13 เพ้อฝันเหมือนกันน่ะจ๊ะ
14 เก่งจริงๆมีความสามารถเพียบ
15 ขวานผ่าซากใช่เธอน่ะ
16 ทะนงตนนักล่ะ สาวน้อย
17 ซนไปนิดกรุณาอยู่นิ่งๆบ้างเถอะ
18 เอาแต่ใจในบางครั้ง
19 มักจะโชคดีเสมอๆ
20 คำว่าแพ้ ไม่ค่อยได้เจอหร๊อก





**สาวราศีพฤษภ**ขออยู่เงียบๆคนเดียวอย่าโดดเดี่ยวเดียวดาย คือความปรารถนาสูงสุดของเธอ
สาวที่เกิดระหว่างวันที่ 16 พ.ค. - 15มิ.ย.สาวราศีพฤษภ มีกลุ่มดาวเป็นรูปโคก็นั่นแหละ
ถึงได้ดื้อรั้นเอามากๆแบบนี้น่ะ คุณเธอเป็นคนค่อนข้างแข็งแรง บึกบึน ทรหด
อดทนได้ดีทีเดียว จัดอยู่ในประเทศสาวเหล็กไงเป็นคนหนักแน่นพอตัว
สิ่งดีๆเคียงข้างกายสาวราศีพฤษภ สีเวิร์คสุดๆสีเขียวอ่อนๆ ดูสดใสใช่ม๊ะ อัญมณีสุดเดิร์น
แหมจะหนีพ้นพลอยสีเขียวได้ไงต้นไม้คู่ชีพต้นแมลโลว์ที่มีดอกสีม่วงน่ะสัตว์พาโชค แน่ล่ะก็ต้องเป็นวัวผู้น่ารักอยู่แล้ว
โลหะนำโชค ทองแดงจ๊ะ
นี่หละเธอ สาวราศีพฤษภ
1 โรแมนติกซะเหลือเกิน
2 อารมณ์ศิลปินจังนะ
3 ความละอายเค้าก็มีเหมือนกัน
4 หลายใจเอ๊ะ อย่างนี้ก็เจ้าชู้น่ะซิ
5 เชื่อในความคิดของตัวเอง
6 รวมกันเราอยู่ (ขอมีเพื่อนไว้ก่อนดีกว่า)
7 เอาแต่ใจตัวเองซะด้วย
8 ระเบียบจ๋า ไปหน่อยมั้ง
9 ขี้หึงเอามากๆเลยหละ
10 รักสงบดีนะ
11 สาวโบ..เธอเองเหรอ(โบราณจ๊ะ)
12 ช่างเก็บความรู้สึกนะคนเนี๊ยะ
13 ไว้ใจได้ทุกเรื่องไม่มีเสีย
14 ใ จดีจัง มีเมตตากรุณาซะด้วย
15 ดื้อจนน่าตีก้น
16 ใจกว้างจัง เหมือนอะไรดีน๊า
17ชอบถล่มตัวเองเสมอค่ะ
18 รักธรรมชาติน่าดู
19 ขี้อายนะยะ
20 สุดท้ายเธอเป็นคนดีของสังคม ว้าว



**สาวราศีมิถุน** ความรู้สึกแร๊งแรงอารมณ์รึก็ออกจะรวนเร ทุกอย่างในตัวเธอ ดูรวดเร็วและว่องไว
สาวที่เกิด ระหว่างวันที่ 16 มิ.ย. - 15 ก.ค
สาวราศีมิถุน มีกลุ่มดาวเป็นรูปชายหญิงคู่กันล่ะ
ลักษณะบ่งบอกได้ว่า
ชอบคิดชอบทำอะไรสองอย่างในเวลาเดียวกันสิ่งดีๆของสาวราศีมิถุน
สีเวิร์คสุดๆ ก็สีม่วงไงล่ะอัญมณีสุดเดิร์น
ต้องโกเมน ต้นไม้คู่ชีพ กล้วยไม้และต้นไม้พันธ์ผสมจ๊ะ
สัตว์พาโชค นกสาริกาหรือนกขุนทอง
โลหะนำโชค ปรอทแน่อยู่แล้ว
นี่แหละ คือเธอสาวราศีมิถุน
1 ปากหวานนักเชียว
2 ว๊าว ทรงเสน่ห์แรงจังนะ
3 ช่างสังเกตเหมือนกันนะเรา
4 มองโลกในแง่ดีซะด้วย
5 คนหลายบุคลิก คือ เธอ
6 มีลางสังหรณ์เสมอล่ะ
7 คล่องแคล่วว่องไวจนหาตัวจับยาก
8 เอาแต่ใจเหมือนกันแฮะ
9 เรื่องพูดน่ะ ที่หนึ่งอยู่แล้ว
10 ฉลาดเป็นกรดเลยเชียว
11 ขี้หงุดหงิดซะด้วย
12ชอบฝันซะด้วย
13 เรื่องแก่ๆ ขอบาย
14 ปุ๊บปั๊บก็เปลี่ยน
15 ใช้ตังค์เก่งจัง
16 รักอิสระเป็นที่สุด
17 หาความแน่นอนยากจริง
18 เธออยู่ไม่สุขหรอก
19โอกาสดีๆมีหรือจะไม่เอา
20 แม่พระค่ะ สาวคนนี้



** สาวราศีกรกฎ** สาวช่างฝัน อารมณ์อ่อนไหวในรวนเร เสน่ห์สุดบรรยาย ต้องเธอนี่เลย
สาวที่เกิดระหว่างวันที่16 ก.ค - 15 ส.ค.สาวราศีกรกฎ เธอเป็นแม่ปูน้อย มีอารมณ์อ่อนไหวง่ายๆ
เอาอะไรแน่นอนกับเธอไม่ได้หรอกจ๊ะสิ่งดีๆเคียงข้างกายสาวราศีกรกฎ สีเวิร์คสุดๆ
สีขาวบริสุทธิ์กับฟ้าที่สดใส อัญมณีสุดเดิร์นเพชรมุกและพลอยสีขาวจ๊ะ ต้นไม้คู่ชีพ ดอกบัว เฟิร์น
อัลมอนด์จ๊ะสัตว์พาโชค ปู เต่า สฟิงค์โลหะนำโชค เงินแน่อยู่แล้วหละ
นี่หละเธอสาว ราศีกรกฎ
1 เผลอไม่ได้เป็นจินตนาการอยู่เรื่อย
2 ให้เป็นศรีเรือนเหรอสบายอยู่แล้ว
3 เรื่องจับแพะมาชนแกะน่ะเก่งนัก
4 โรแมนติกไม่หยอก
5 ไอ้โน่นก็กลัว ไอ้นี่ก็กลัว โถแม่คุณ
6 ภาษาใจเธอเข้าใจยาก..ส์ค่ะ
7 โทษแต่ตัวเอง จนน่าโมโห
8 อ่อนไหวแต่ไม่อ่อนแอย่ะ
9 เกลียดนักพวกชอบนินทาว่าร้าย
10แม่สาวปากแข็ง
11 คุยโวก็มีบ้าง พอน่ารัก
12 อดทนเป็นล้ำ เสียสละเป็นเลิศ
13 ทิฐิจังเลยสาวน้อย
14 ชอบคิดแหวกๆเข้าใจยากค่ะ
15 หงุดหงิดง่ายเหลือเกิน
16 Sense เธอแรงมากเหลือเกิน
17 รอบคอบด้วยนะ (ดีมากจ๊ะ)
18หงาดกลัวไปเสียหมด เด็กน้อย
19 ออดอ้อน อย่าบอกใครเชียวล่ะ
20 ลึกลับในบางครั้ง



**สาวราศีสิงห์**
รูปร่างสง่างาม แบบแม่สิงห์สาว
ตามติดมาด้วยความมั่นใจสูงสาวที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ส.ค - 15 ก.ย.
สาวราศีสิงห์มีกลุ่มดาวเป็นรูปสิงห์โตก็อย่างนี้ไงเล่ารูปจึงได้ดูสง่างามเหมือนสิงห์โตสิ่งดีๆเคียงข้างกายสาวราศีสิงห์
สีเวิร์คสุดๆก็คือสีส้มไงขอรับอัญมณีสุดเดิร์นคงเป็นทองกับพลอยสีส้มสิ
ต้นไม้คู่ชีพต้องยกให้เป็นทานตะวันจ๊ะ สัตว์พาโชคแง๋หละสิงห์โตไงจ๊ะ โลหะนำโชค ทองคำจ๋ะ นี่แหละเธอสาวราศีสิงห์
1 ร่าเริงมีเสน่ห์เชียวหละ
2 เจ้าชู้ก็ไม่แพ้ใคร
3 หวาน โรแมนติก
4 สง่างามแบบแม่สิงห์สาว
5 ทรนงน่าดู
6 พรสวรรค์และพลังที่สร้างสรรค์มีจนล้นหละ
7 เรื่องเล็กๆไม่มีสนอยู่แล้ว
8 อำนาจอยู่ในมือ
9 ตามใจตัวเองไปมั้ย ไม่ดีหรอก
10เค้าว่าเธอนี่หยิ่งนัก
11 เชื่อคนง่ายจัง
12 ทิฐิสูงปิ๊ดเชียว
13 วิตกจริตไปเรื่อยเลย
14 เข้มงวดสไตล์สาวสิงห์ล่ะ
15 บางทีก็เป็นสิงห์อ่อนหัดนะ
16 ชอบนักล่ะการติดตามน่ะ
17 เธอช่างให้ความรู้สึกดีจัง
18 มีความรับผิดชอบด้วยนะ
19 เค้าว่ากันว่า ใจดำ จริงป่ะ
20 ขี้โมโหจะตายคนเนี๊ยะ



** สาวราศีกันย์**
เค้าว่าเธอคนเนี๊ยะ เรียบร้อยสงบเสงี่ยมเยือกเย็นถ่อมตัวสาวที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ก.ย. - 15 ต.ค สาวราศีกันย์ มีกลุ่มดาวเป็นรูปนางพญาผู้สง่างามสาวราศีนี้เธอมีบุคลิกที่เนี๊ยบมาก เจ้าหล่อนฉลาดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน สิ่งดีๆเคียงข้างกายสาวราศีกันย์
สีเวิร์คสุดๆสีเขียวเข้มนี่ล่ะ อัญมณีสุดเดิร์นพลอยสีเขียวและมรกต
ต้นไม้คู่ชีพ ดอกนานาซิสซัส
สัตว์พาโชคต้องมิงค์หรือเม่นไงล่ะ โลหะนำโชคปรอทซิเจ้าคะนี่ล่ะเธอ สาวราศีกันย์
1 เป็นสาวช่างเลือกเลยล่ะ แม่คนเนี๊ยะ
2 ต้องเลอเลิศค่ะ สำหรับเธอ
3 ฉันถูกเสมอล่ะ สาวกันย์เธอว่างั้น
4 เอาจริงเอาจังขึ้นมาล่ะก็ เด็ดค่ะ
5 ฉันน่ะ perfect girlย่ะ
6 การันตีว่า ซื่อสัตย์ชัวร์
7 ถ่อมตัวก็เป็นนะ
8 เรียบร้อยทุกกระเบียดเชียวนะ
9 เป็นแม่พระ กะเค้าด้วย
10 ประเดี๋ยวก็เปลี่ยน เป็นเงี๊ยะตลอด
11ป้ำๆเป๋อๆชอบกล
12 เป็นนักสะสมตัวยง
13 เธอเป็นสาวนักสู้ด้วยนะ
14 จิตใจดี้ดี
15 ค วามรับผิดชอบถือว่าเยี่ยม
16 บุคลิกดีเชียว
17 ลึกๆแล้วนู๋แกก็ขี้อาย
18 อบอุ่นเชียว
19 เค้าว่าระเบียบจ๋า อ่ะ จริงป่ะ
20 สาวกันย์ก็เงี๊ยะหล่ะ อยากรู้อยากเห็นไปหมด



**สาวราศีตุลย์**
เธอปรากฎตัวพร้อมกับฉายา
คนตรงสาวที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ต.ค - 15 พ.ย
สาวราศีตุลย์ แม่สาวคันชั่งเธอเป็นสาวรักความยุติธรรมและเป็นคนอารมณ์ดีด้วยนะ เต็มไปด้วยความรักมากมาย และความสดใสก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างหนึ่งสิ่งดีๆเคียงข้างกายสาวราศีตุลย์ สีเวิร์คสุดๆ สีน้ำเงินไง อัญมณีสุดเดิร์น ต้องเป็นไพลินและพลอยสีฟ้าน่ะซิต้นไม้คู่ชีพ ว่านหางจรเข้ ต้นเมอร์เทิล กุหลาบจ้า
สัตว์พาโชคสัตว์ใหญ์อย่างช้างสิเจ้าคะ โลหะนำโชคทองแดงเท่านั้นแหละนี่ล่ะเธอสาวราศีตุลย์
1ร่าเริงแจ่มใสเชียว
2 มีอารมณ์ศิลปินซะด้วย
3 เจ้าชู้ไม่ใช่เล่นเลย
4 ตามใจตัวเองไปมั้ง
5 สาวทันสมัยย่ะ
6 ว่านอนสอนง่ายจะตายไป
7ชอบสังสรรค์เป็นที่หนึ่ง
8 อ่อนไหวเหมือนกัน
9 มีเสน่ห์เชียวล่ะ
10 เป็นแม่สาวลึกลับน่าค้นหา
11 รู้จักคิด รู้จักทำ ดีน๊า
12 มนุษย์สัมพันธ์ก็เป็นเลิศ
13ชอบเถียงไม่ดีหรอก
14 จับโน่นใส่นี่ ผสมนั่น ใช่เลยราศีตุลย์
15 รู้จักเหตุผลกับเค้าด้วย
16 ชอบขัดแย้งกับตัวเองก็เป็นแฮะ
17 หลงตัวเองบ้าง แล้วแต่โอกาสจ๊ะ
18 ชั้นเชิงไม่ใช่เล่น
19บางอารมณ์ก็เศร้าโศรกกับเค้าเหมือนกัน
20 แม่คนเนี๊ยะ ชอบยั่วโมโหนักล่ะ



**สาวราศีพิจิก**
สายตาคู่นั้นให้ความรู้สึกจริงจังดูเป็นเสน่ห์ที่น่าลุ่มหลง ไม่แพ้เสน่ห์ใดๆ
สาวที่เกิดระหว่างวันที่ 16 พ.ย - 15 ธ.คสาวราศีพิจิก เธอมีสัญญลักษณ์เป็นรูปแมลงป่อง เธอเป็นผู้ที่มีดวงตาสวยแต่สายตานี่สิ
มีลักษณะพิเศษที่ซ่อนอะไรอยู่ภายในเหมือนดังมีมนต์สะกดแน่ะ
สิ่งดีๆเคียงข้างกายสาวราศีพิจิกสีเวิร์คสุดๆสีชมพูหวานแหววไงล่ะ อัญมณีสุดเดิร์นทับทิมกับพลอยสีม่วงจ๊ะ
ต้นไม้คู่ชีพต้นกระบองเพชร ไอวี่ หรือต้นโอ๊กจ๊ะ สัตวพาโชค
ไม่ใช่แมลงป่องแต่เป็นหมาป่าหรือกิ้งก่าจ๊ะนี่ล่ะเธอ สาวราศีพิจิก
1สายตาช่างรู้ลึกนัก
2 เอื้ออาทร น่ารักจัง
3 ใจรวนเรไม่หยุดนิ่งเลยนะ
4 อ่อนไหวง่ายเชียว
5 บางทีก็ร้ายน่าดู
6 ขั้ระแวงเป็นที่หนึ่ง
7 อิจฉาก็ด้วย
8ขี้หวงอีกต่างหาก
9 แถมใจร้อนซะด้วยสิ
10 เจ้าอารมณ์มากๆเลยเธอน่ะ
11 ยุ่งเหยิงสับสนไปหมด
12 ทำจริงไม่ใช่เล่น
13 ขี้พยาบาทด้วยนะ ว้า ไม่ดีเลย
14ดื้อจนน่าตีเชียวล่ะ
15 ความสามารถเยอะม๊ากค่ะ
16 มั่นใจตัวเองสูงมาก
17 ใจร้อนไม่เบาเลยนะ
18 เสี่ยงให้รู้กันไปเลย
19 ตามใจตัวเองไปมั้ง
20 เธอน่ะยอมใครเค้าที่ไหน



**สาวราศีธนู** ดวงตาที่เปล่งประกายแข็งแรงและแกร่งกล้า น่าทึ่งสมเป็นสาวธาตุไฟพลังสูง สาวที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ธ.ค - 15 ม.คสาวราศีธนู
เธอมีรูปธนูเป็นสัญญลักษณ์และจัดอยู่ในธาตุไฟเธอจัดว่าเป็นคนมองโลกในแง่ที่ดีเลิศคนหนึ่ง
สิ่งดีๆเคียงข้างกายสาวราศีธนู สีเวิร์คสุดๆสีเหลืองนี่หล่ะที่เหมาะเหม็งกับเธอมากอัญมณีสุดเดิร์น
บุษราคัมและพลอยสีเหลือง ต้นไม้คู่ชีพต้นโอ๊คหรือต้นไทรสัตว์พาโชค สุนัขที่แสนจะน่ารัก (เบิร์กแคมป์) กับม้าที่สง่างาม (หน่อง) โลหะนำโชค
เค้าว่ากันว่า เป็นดีบุกนะเธอนี่ล่ะเธอ สาวราศีธนู
1 สดใสเหมือนเด็กๆ
2 ไว้ใจเธอได้เสมอ
3 มองโลกในแง่ดีไปหมด
4 กระตือรืนร้น มากค่ะ
5 อยู่ไม่สุข จุ๊กจิ๊ก ไปเรื่อย
6 ไม่ผูกมัด
7 ซุ่มซ่ามแต่เธอไม่เซ่อซ่านะ
8 ตามใจตัวเองเป็นที่สุด
9 เธอมาพร้อมดวง แบบว่าดีตลอด
10 เสน่ห์เธอเจอแล้วหลง
11 รู้ไปซะหมดล่ะ แม่คนเนี๊ยะ
12 วางท่าอีกต่างหาก
13 ตัดสินใจเร็ว แต่เปลี่ยนใจง่ายนะ
14 ต้องการความเป็นอิสระด้วยนะ
15 นี่ล่ะ สาวนำสมัย
16 ศีลธรรมน่ะ มีอยู่ประจำใจ
17 ลางสังหรณ์มีออกบ่อย
18 ไม่ปิดหรอก ชอบเปิดน่ะ (เปิดเผยสิจ๊ะ)
19 ตรงไปตรงมา น่ารักดี
20ใจดีจังนะ



**สาวราศีมังกร** มีใจหนักแน่น อย่างนี้หยิ่งไปนิด เชิดไปหน่อยก็ช่วยบอกช่วยสอนได้นะ เจ้าคะ
สาวที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ม.ค - 15 ก.พ.สาวราศีมังกรสัญญลักษณ์เป็นกลุ่มดาวมังกรนั่นเองล่ะ
หรือมีส่วนหัวคล้ายจะเป็นแพะเค้าจะเชิดหน้าเชิดตาอยู่ตลอดเวลาเหมือนว่าจะหยิ่งๆแต่ไม่ใช่หรอกจ๊ะ
มันเป็นเองตามธรรมชาติ หล่อนไม่สวยแบบหรูเลิศไฮโซแต่เจ้าหล่อนสวยแบบเรียบง่าย
สิ่งดีๆเคียงข้างกายสาวราศีมังกร สีเวิร์คสุดๆ สีดำไงจ๊ะ อัญมณีสุดเดิร์นนิลกับพลอยสีเข้มๆเกือบดำจ๊ะ ต้นไม้คู่ชีพ ต้นสน ต้นปอ
ต้นหลิว หรือว่าต้นแอชสัตว์พาโชค แพะกะลาซิเจ้าคะ โลหะนำโชค ตะกั่วนะสิมีอะไรอีกอิอินี่ล่ะเธอสาวราศีมังกร
1 มีใจมุ่งมั่นน่าดู
2 ใฝ่คว้าหาสิ่งที่ดีกว่าเสมอ
3 ตั้งใจเต็มร้อย
4 นิยมความสัตย์จริงเป็นที่ตั้ง
5 หญิงอาร๊าย แข็งแกร่งดังชาย
6ชอบวาดหวังเส้นทางชีวิต
7 คล่องไปหมดซะทุกอย่าง
8 มีเหมือนกัน ความรับผิดชอบน่ะ
9 เฮอาปาร์ตี้ไปเรื่อย
10 จำแม่นซะด้วย
11 ประสบความสำเร็จน่ะ อยู่แล้ว
12ช่างเลือกแฮะ
13 ดูสง่าผ่าเผยน่ามองเชียว
14 ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณี
15 เห็นแบบนี้ ขี้อายมากนะ
16 ขยันเชียว
17 ไม่ค่อยจะกลัวอะไรกับเค้าหรอก
18ช่างห่วงใยใครกับใครนักล่ะ
19 ยิ้มน้อยแต่หวานชื่นใจ
20 ระวังรอบตัว



**สาวราศีกุมภ์** บางทีก็กุ๊กกิ๊กหวานแหววสดชื่นแต่เดี๋ยว ก็แอบมีอารมณ์ขมขื่นบ้างสาวที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ก.พ. - 15 มี.ค
มีสัญญลักษณ์เป็นกลุ่มดาวรูปยักษ์หรือคนกำลังปั้นหม้อ หรือรูปคนถือคนโทน้ำ
และมีสายน้ำไหลออกมาด้วย เป็นคนที่มีบุคลิกลักษณะโดยรวมๆแล้ว จัดอยู่ในขั้นดีเลิศประเสริฐเลยทีเดียว
ประมาณว่าเพอแฟคไปหมดทุกอย่างสิ่งดีๆเคียงข้างกายสาวราศีกุมภ์ สีเวิร์คสุดๆ
ก็สีม่วงคราม เป็นสีแห่งความรุ้สึก อัญมณีสุดเดิร์นต้องนี่เลยโกเมน ต้นไม้คู่ชีพแบบไทยๆ ก็ต้นมะกอก
นี้ล่ะเธอสาวราศีกุมภ์
1โลเลเอาแน่นอนไม่ได้
2 สปอร์ทเป็นหนึ่งเรื่องใจ
3 กฎระเบียบหนูไม่ชอบ
4 มีความคิดสร้างสรรค์เป็นทุนเดิม
5 ปุ๊ปปั๊ปก็เปลี่ยน ตามไม่ทันเลย
6มีมนุษย์สัมพันธ์ชั้นเยี่ยม
7 คุณธรรมสูงไม่ต้องห่วง
8 เจ้าคิด เจ้าแค้น น่ากลั๊ว น่ากลัว
9 มีวิมานเป็นโลกส่วนตัว
10 กันเอ๊ง กันเองกับทุกคน
11 ชอบเที่ยวจังล่ะ สาวราศีนี้
12 คล่องแคล่วว่องไวไม่หยอก
13 เอาแต่ใจใช่เธอเลย
14 โรแมนติก โน๊ะเนะ
15 อารมณ์ร้อนและร้าย บึ้มแน่
16 ปัญญาเป็นเลิศ
17 ความอดทนระดับสาวอึด
18 ขี้อายในบางเวลา
19 ชอบการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ
20 ไม่สนหรอก วัตถุนิยมเนี๊ยะ



**สาวราศีมีน** ร่างเดียว แต่มาพร้อมกับสองบุคลิกนี่ล่ะ ใช่เลยไม่ผิดตัวแน่คะ
สาวที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ม๊.ค - 15เม.ย..เธอมีสัญญลักษณ์เป็นรูปปลา 2 ตัว กลับหัวกลับหางกัน
เป็นคนที่มีพลังแห่งความคิด มีอุดมคติประจำใจสิ่งดีๆเคียงข้างกายสาวราศีมีน
สีเวิร์คสุดๆ ก็นี่เลย สีแดงเลือดนก อัญมณีสุดเดิร์น พลอยสีแดงเข้มสิขอรับ
ต้นไม้คู่ชีพ ดอกบัวไง สัตว์พาโชคก็พวกปลาทั้งหลายนั่นแหละโลหะนำโชค ดีบุก
นี่แหละคือเธอ สาวราศีมีน
1 ลึกลับน่าค้นหา
2 นี่ล่ะ beautiful girl
3 ว้าว สุดแสนจะโรแมนติก
4 อย่าเดาใจเธอให้ยาก ไม่สำเร็จหรอก
5 ขึ้นๆลงๆอ ารมณ์เธอแปรปรวน
6 ยามโกรธเธอจะปรึม อื้อเข้าท่าดี
7 สนิมสร้อยนะน้อง เจ้าน้ำตาอารมณ์ไหว
8 ขอเอี่ยวด้วยคนกับเรื่องเสียสละ
9 เจ้าคิดเจ้าแค้น โกรธง่ายหายเร็ว
10 ไว้ใจได้ชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม
11 หญิงเหล็ก คนหนึ่ง ทึ่งมั้ยล่ะ
12 เรื่องเอาตัวรอดน่ะ หายห่วงได้
13 อารมณ์ศิลป์ เธอชั้นยอด
14 ใจงาม ในนามสาวมีน
15 เพ้อฝัน จินตนาการ ของโปรด
16 ตลก เฮฮา เริงร่า นั่นเธอล่ะ
17 โกรธง่าย อารมณ์คล้ายพายุ
18 ไม่ค่อยเรียบร้อย นู๋มีนม้าดีดกระโหลก
19 คิดมากนะเธอ ไม่เอาน่าอย่าเครียด
20โพล่งออกดื้อๆคารมคมกริบ

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

moo